Archive-Week 2 (15 มกราคม 64) ประเด็นการป้องกันแก้ไขปัญหาความยากจน

 Week2  วันที่ 15 ม.ค. 64

ประเด็นการป้องกันปัญหาและแก้ไขความยากจน

บรูไนดารุสซาลาม      

  • กระทรวงคมนาคมและการสื่อสารข้อมูลของบรูไน เริ่มผลักดันโครงการภายใต้แผนแม่บทเศรษฐกิจดิจิทัลปี 2568 เพื่อกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยคาดการณ์ว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานที่มากยิ่งขึ้น
    https://borneobulletin.com.bn/initiatives-keep-country-on-track-for-smart-nation-aspirations/
  • บรูไนดารุสซาลามในฐานะประธานอาเซียนประจำปี 2564 นำเสนอปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจ 10 อันดับ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาค หลังการระบาดของ COVID-19 โดยมุ่งเน้นอำนวยความสะดวกให้กับการลงทุนและการจ้างงาน รวมทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
    https://borneobulletin.com.bn/brunei-proposes-10-economic-priorities-as-asean-chair-2/

กัมพูชา

  • รัฐบาลกัมพูชาและคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำกัมพูชา ร่วมวางแผนยุทธศาสตร์ความร่วมมือ 7 ปี (ค.ศ. 2021-2027) โดยมีเป้าหมายกระชับความร่วมมือ 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาสังคม การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมและยั่งยืน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเมือง – ชนบท และการบริหารจัดการ
    https://www.phnompenhpost.com/business/cambodia-readies-eu-meet-7-year-work-plan
  • กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัทที่ปรึกษาด้านการค้าการบริการและการค้าปลีก (BRB) และ Coca-Cola เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์หัตถกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นและสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบการชาวกัมพูชา รวมทั้งสร้างโอกาสในการจัดการธุรกิจให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม และสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
    https://www.phnompenhpost.com/business/mou-champions-handicrafts

อินโดนีเซีย

  • รัฐบาลอินโดนีเซียและองค์กร UNICEF ร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการสำหรับโครงการระดับประเทศ (Country Program Action Plan) ปี 2021 – 2025 มูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4.5 พันล้านบาท) เพื่อส่งเสริมสวัสดิภาพของเด็กภายใต้เป้าหมายหลัก 7 ประการ โดยหนึ่งในเป้าหมายดังกล่าว ว่าด้วยการลดอัตราเด็กยากจนในอินโดนีเซียจากร้อยละ 11.8 ให้เหลือร้อยละ 9
    https://www.unicef.org/indonesia/press-releases/government-indonesia-and-unicef-sign-150-m-country-program-action-plan-deliver-seven
  • ผลการศึกษาของศาสตราจารย์ Paul Ferraro จาก Johns Hopkins Carey Business School พบว่าโครงการให้เงินช่วยเหลือแบบมีเงื่อนไขแก่หมู่บ้านในชนบทของอินโดนีเซียกว่า 7,000 แห่งเพื่อบรรเทาความยากจน มีส่วนช่วยในการลดอัตราการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ท้องถิ่นของอินโดนีเซียลงถึงร้อยละ 30
    https://carey.jhu.edu/articles/research/ferraro-study-recognized-scientific-breakthrough

ลาว

  • รัฐบาลสปป.ลาว มีคำสั่งให้ศึกษาแนวทางการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน และแนวทางเปลี่ยนวิสาหกิจที่ขาดทุนให้เป็นกิจการร่วมค้า เพื่อลดภาระหนี้สิน และผลักดันให้ประเทศหลุดพ้นจากสถานะประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDC)
    https://www.worldbank.org/en/country/lao/overview
  • รายงาน Lao Economic Monitor โดยธนาคารโลกคาดว่าการเติบโตของ GDP จะฟื้นตัวเป็น 9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2564 การเติบโตในระยะกลางจะทยอยฟื้นตัวจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการรับบริการการส่งออกและการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มเติม หากสามารถควบคุมการระบาดของ โควิด-19 ได้ดี โดยแนะให้ปรับปรุงการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน พร้อมสนับสนุนครัวเรือนและ บริษัท ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เพื่อสร้างพื้นที่ทางการคลัง
    https://reliefweb.int/report/lao-peoples-democratic-republic/developing-shock-responsive-national-social-protection-system

มาเลเซีย

  • รัฐบาลปีนังอนุมัติแพ็คเกจความช่วยเหลือทางการเงินมูลค่า 20 ล้านริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 148 ล้านบาท) เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งการควบคุมการเคลื่อนไหว (Movement Control Order) รอบที่สอง ซึ่งจะมีผลถึงวันที่ 26 มกราคม ทั้งนี้ ได้มีการจัดสรรเงินงบประมาณช่วยเหลือในปีที่แล้ว ประมาณ 111,407 ล้านบาท ในการช่วยเหลือภาคธุรกิจ องค์กร และบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด- 19
    https://www.malaymail.com/news/malaysia/2021/01/14/penang-approves-rm20m-package-to-aid-locals-in-mco-0/1940324
  • กระทรวงการคลังมาเลเซีย จะเร่งรัดการจ่ายงบประมาณโครงการช่วยเหลือ ระยะที่ 2 เป็นจำนวนเงิน 38 พันล้านริงกิต (ประมาณ 17.6 พันล้านบาท) ให้แก่ผู้รับที่มีสิทธิ์ 11.06 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีสิทธิเดิมจำนวน 10.6 ล้านคน และกลุ่มผู้มีสิทธิรายใหม่อีก ประมาณ 460,000 คน
    https://www.nst.com.my/news/government-public-policy/2021/01/657062/finance-ministry-expedite-bpn20-payments-starting-jan

เมียนมา

  • เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (Unicef) และรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ร่วมกันลงนามข้อตกลงในโครงการเพื่อฟื้นฟูประชากรเมียนมากว่า 4 แสนคน ซึ่งได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และวิกฤตการณ์อื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 4.71 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยโครงการดังกล่าวให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาพ น้ำ สุขอนามัย และการศึกษาในชุมชนเป้าหมาย ได้แก่ชุมชนในพื้นที่รัฐยะไข่ รัฐคะฉิ่น และรัฐฉานเหนือ
    https://www.mmtimes.com/news/unicef-japan-boost-resilience-conflict-zones.html
  • รัฐบาลเมียนมาอยู่ระหว่างการจัดทำยุทธศาสตร์ เพื่อคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศ โดยยุทธศาสตร์ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อส่งเสริมสิทธิในด้านต่าง ๆ ให้กลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมา การพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงส่งเสริมให้รักประเทศชาติมากขึ้น ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา รัฐบาลเมียนมาได้หารือร่วมกับตัวแทนจากกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องอันจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดทำยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยคาดว่าจะสามารถใช้เป็นกรอบการดำเนินการได้ในช่วงปี 2564 – 2573 ต่อไป
    https://www.mmtimes.com/news/myanmar-govt-drafts-strategy-recognise-and-protect-rights-ethnic-groups.html

ฟิลิปปินส์

  • รัฐบาลฟิลิปปินส์มีนโยบายที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ข้อที่ 2 (SDGs 2) ในการขจัดความหิวโหย (Zero Hunger) ภายในปี 2030 โดยเห็นว่า การแก้ปัญหาคนไร้บ้านควรเป็นแผนงานอันดับแรก เพื่อบรรลุเป้าหมายการขจัดความหิวโหย แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้อัตราความหิวโหยในประเทศเพิ่มขึ้นเท่าตัวในอัตราร้อยละ 16 และมากกว่า 7.6 ล้านครอบครัวเข้าข่ายสถานะหิวโหยในช่วงโควิด 
    ที่มา: ‘Zero hunger’ attainable if gov’t prioritizes homeless Pinoys, By Ruth Abbey Gita-Carlos January 13, 2021 
    https://www.pna.gov.ph/articles/1127289
  • รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกมาตรการป้องกันความหิวโหย ในโครงการที่มีชื่อว่า “The Plant, Plant, Plant program” โดยมีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือกลุ่มปศุสัตว์และการประมง และส่งเสริมความปลอดภัยทางอาหาร ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะลดอัตราความหิวโหยให้เหลือร้อยละ 8.8 จากร้อยละ 16
    ที่มา: Govt to boost anti-hunger measures, By Keith Calayag January 13, 2021
    https://www.manilatimes.net/2021/01/13/news/national/govt-to-boost-anti-hunger-measures/827022/

สิงคโปร์

  • รัฐบาลสิงคโปร์ ประกาศเน้นช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยจะใช้มาตรการต่าง ๆ ร่วมกัน อาทิ การขยายรูปแบบค่าจ้างแบบก้าวหน้า (PWM) ซึ่งเป็นนโยบายภาษีเงินได้เชิงลบอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มรายได้ของแรงงานที่มีค่าจ้างต่ำ ร่วมกับการใช้กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างงานสำหรับทุกคน และสร้างหลักประกันว่าสิงคโปร์ยังคงสามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจได้
    https://www.straitstimes.com/singapore/politics/we-are-our-brothers-keepers-tharman-shanmugaratnam-on-raising-incomes-of-low-wage
  • รัฐบาลเตรียมเปิดตัวเงินช่วยเหลือฟื้นฟูโควิด-19 ในวันที่ 18 ม.ค. 64 นี้ โดยเน้นกลุ่มคนทำงานที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง และผู้ประกอบอาชีพอิสระ อาทิ ชาวสิงคโปร์ที่มีสิทธิและผู้อยู่อาศัยถาวรที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินช่วยเหลือสูงสุดถึง 700 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 5 หมื่นบาท) ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน และผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระที่สูญเสียรายได้ตามเงื่อนไข ก็มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือสูงสุดถึง 500 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1.1  หมื่นบาท) ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน เช่นกัน
    https://www.channelnewsasia.com/news/singapore/covid-19-grant-lower-middle-income-workers-january-13782612

ติมอร์-เลสเต

  • อุปทูตของอเมริกาเข้าพบประธานาธิบดีของติมอร์-เลสเต เพื่อหารือกรอบความร่วมมือทวิภาคีเกี่ยวกับโครงการการพัฒนาติมอร์-เสสเต โดยได้เตรียมการศึกษาและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพน้ำและสุขอนามัย โครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาและการระบายน้ำ รวมเงินสนับสนุนจำนวนประมาณ 8,400 ล้านบาท โดยหวังว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวติมอร์-เลสเตให้ดีขึ้น
    http://www.tatoli.tl/en/2021/01/14/the-usa-charge-daffaires-elias-parra-updates-the-mcc-program-to-the-pcm/
  • หน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศเกาหลีใต้ (KOICA) ได้มอบเงินทุนสนับสนุนให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และกีฬา แห่งประเทศติมอร์-เลสเต เป็นจำนวนประมาณ 195 ล้านบาท ในการสร้างและซ่อมบำรุงสนามฟุตบอลจำนวน 5 แห่ง ณ กรุงดิลี เมืองหลวงของประเทศ ทั้งนี้ จะมีการลงนามในบันทึกความตกลง (MOU) ความร่วมมือระยะ 5 ปี ระหว่าง KOICA และกระทรวงศึกษาธิการฯ ต่อไป
    http://www.tatoli.tl/en/2021/01/13/koica-extents-financial-aid-6-5-million-to-construct-the-soccer-fields/

เวียดนาม

  • ภาคธุรกิจ e-commerce ของประเทศเวียดนามมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต เนื่องมาจากประชากรจำนวนมากที่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวและมีอัตราการใช้งานอินเทอร์เน็ตสูง โดยมีการยืนยันจากกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าระบุว่า ปัจจุบันประเทศเวียดนามถือเป็นหนึ่งในตลาด e-commerce ที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    https://en.vietnamplus.vn/bright-future-tipped-for-vietnam-s-e-commerce-market/194553.vnp
  • ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ของเวียดนาม เตรียมการนำผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่นภายใต้โครงการ ‘One Commune One Product’ หรือ ‘หนึ่งชุมชนหนึ่งผลิตภัณฑ์’ มาจัดแสดงและวางขายในช่วงเทศการ Tet หรือวันปีใหม่ทางจันทรคติ ทั้งนี้ โครงการ OCOP มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมสินค้าการเกษตรแปรรูป งานฝีมือและหัตถกรรมท้องถิ่นของชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ และได้ช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นหลายแห่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับคนในท้องถิ่นจำนวนมาก
    https://en.vietnamplus.vn/regional-specialities-programme-sales-of-many-products-for-tet/194663.vnp

ทวีปเอเชีย

  • ประเทศจีน ปัจจุบันจีนดำเนินการที่จะขจัดความยากจน โดยการใช้ยุทธศาสตร์แบบเจาะจงที่สามารถวัดเป้าหมายได้ และเป็นการรณรงค์การขจัดความยากจนเพื่อเป้าหมายจากภูมิภาคไปสู่ประชาชนทั่วไป เพื่อให้แน่ใจได้ว่าเป็นการแก้ไขจากต้นเหตุ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 2030 รวมทั้งได้ริเริ่มความร่วมมือกับนานาประเทศในการขจัดความยากจนอีกด้วย
    http://en.people.cn/n3/2019/0923/c90000-9616931.html
    https://news.cgtn.com/news/2019-12-28/Common-prosperity-China-s-poverty-alleviation-campaign-MLEFQQSZIk/index.html
  • ประเทศปากีสถาน เนื่องจากประเทศเจอกับปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย การว่างงาน ปัญหาสุขอนามัย รวมถึงสถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัส ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศเป็นอย่างมาก จึงทำให้การแก้ไขปัญหาความยากจนนั้นยุ่งยากมากขึ้น ทั้งนี้ทางรัฐบาลมีแผนช่วยเหลือบรรเทาทางเศรษฐกิจ รวมถึงการมอบเงินให้แต่ละครอบครัวของผู้ยากไร้ทั่วประเทศ และโครงการช่วยเหลือพิเศษทางการเงินแก่แรงงานและธุรกิจขนาดย่อมด้วย
    https://www.eastasiaforum.org/2021/01/01/a-forgettable-year-for-pakistans-economy/
  • ประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่มีคนยากจนเป็นจำนวนมาก และมีปัจจัยที่บกพร่อง เช่น ทรัพย์สิน สุขาภิบาล โภชนาการ ฯลฯ และอินเดียยังได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักจากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งในช่วงที่รัฐบาลอินเดียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อแรงงานนอกระบบ และผู้มีรายได้น้อยจำนวนมากที่ขาดรายได้ อินเดียจึงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ยากไร้หรือคนยากจนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในรูปแบบของอาหารและเงินสด
    https://www.timesnownews.com/business-economy/economy/article/great-lockdown-2020-year-like-no-other-in-recorded-history-for-indian-economy/696002

ทวีปแอฟริกา

  • สาธารณรัฐบุรุนดี เป็นประเทศที่พัฒนาน้อยและยากจนเป็นอย่างมาก รายได้ที่ได้จะขึ้นอยู่กับการเกษตรเพราะประชากรส่วนใหญ่ของประเทศทำการเกษตร แต่บุรุนดีก็ยังต้องพึ่งความช่วยเหลือจากองค์การระหว่างประเทศ เนื่องจากความสามารถในการผลิตอาหารเลี้ยงตนเองนั้นยังไม่เพียงพอ และประชากรจำนวนมากยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงอาหาร การศึกษา และ ความจำเป็นพื้นฐาน
    https://theodora.com/wfbcurrent/burundi/burundi_economy.html
  • สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ประสบปัญหาความยากจนมาอย่างต่อเนื่อง และความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ แรงงานไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดแรงงาน ประชากรส่วนใหญ่ต้องเผชิญหน้ากับภัยจากโรคระบาด การขาดแคลนอาหารและสารอาหารที่จำเป็น ประชาชนต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ซึ่งรัฐบาลต้องพึ่งพาเงินบริจาคจากองค์กรระหว่างประเทศและประเทศผู้บริจาคเป็นหลัก
    https://www.afdb.org/en/countries/central-africa/congo/congo-economic-outlook
  • สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในถิ่นทุรกันดาร มีฐานะยากจน เน้นการทำเกษตรกรรมแบบพอยังชีพ การพัฒนาเศรษฐกิจเป็นไปได้อย่างจำกัด ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมสูงมากโดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง และผู้หญิงจะมีอัตราการเข้าถึงการศึกษาที่น้อยกว่าผู้ชายเป็นอย่างมาก
    https://www.afdb.org/en/countries/central-africa/central-african-republic/central-african-republic-economic-outlook
  • สาธารณรัฐไนเจอร์ เป็นประเทศที่ยากจนที่สุด และมีหนี้สินมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่งเศรษฐกิจประเทศนี้เน้นการส่งออกแร่ยูเรเนียม แต่เนื่องด้วยความผันผวนของราคาแร่ยูเรเนียมในตลาดโลกนั้นส่งผลกระทบต่อประเทศเป็นอย่างมาก รวมถึงประสบปัญหาภัยแล้งอีกด้วย นอกจากนี้ยังเจอกับปัญหาอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นอีกด้วย
    https://www.afdb.org/en/countries-west-africa-niger/niger-economic-outlook

ทวีปยุโรป

  • ประเทศตุรกี เป็นประเทศที่ค่าเงินอ่อนเป็นรองจากเวเนซุเอลา ทำให้ตุรกีมีงบประมาณขาดดุลติดต่อกันยาวนานมากที่สุด การออมในประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ อัตราการว่างงานก็สูงขึ้น จนกลายมาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และแน่นอนว่า COVID-19 ส่งผลกระทบต่อภาคบริการของประเทศ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของตุรกีอย่างหนักหน่วง
    https://ahvalnews.com/turkey-economy/turkeys-fragile-economy-poorly-placed-weather-covid-19-cnbc
  • ประเทศบัลแกเรีย ประสบกับปัญหาความยากจนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำทำให้เกิดปัญหาการว่างงานเป็นจำนวนมาก และยังประสบกับปัญหาการจ้างงานที่ได้รับค่าจ้างที่น้อยมากทำให้คนหนุ่มสาวต้องออกจากประเทศเพื่อจะไปหาโอกาสและค่าจ้างที่ดีขึ้น ซึ่งปัญหาความยากจนในประเทศเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
    https://borgenproject.org/why-is-bulgaria-poor/

ทวีปอเมริกา 

  • ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากอุปสรรคเรื่องค่าแรงและความยากจน รวมถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำ ทำให้ Nick ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาของรัฐ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเด็กๆ โดยเฉพาะในชุมชนที่มีรายได้น้อยและชนชั้นแรงงาน เพื่อเพิ่มอัตราการจบการศึกษาและค่าแรงจะเพิ่มขึ้น ความยากจนและความไม่เท่าเทียมจะลดลง
    https://www.theatlantic.com/magazine/archive/2019/07/education-isnt-enough/590611/?fbclid=IwAR0Z5mCwY6LPAJNUH02xSErT6fBXGpGyj1V0KXoL8WZPGKEL5yS5vPuvr-k
  • ประเทศเม็กซิโก คนยากจนในประเทศจํานวนมากกําลังดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอด และมีประชากรจํานวนมากมายที่อาศัยเศรษฐกิจนอกระบบในการทํามาหากิน และเนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 รัฐบาลอาจจะสั่งให้หยุดเศรษฐกิจนอกระบบ โดยการ lockdown เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส จึงทําให้คนเหล่านี้ขาดรายได้ ดังนั้นอาจทำให้บางคนหันไปหามาตรการที่รุนแรงและพวกเขาอาจมองหาวิธีในทางที่ไม่ดี ซึ่งจะทําให้สถานการณ์เลวร้ายไปอีก
    https://www.nytimes.com/2020/04/29/opinion/mexico-coronavirus-economy.html

ทวีปอเมริกาใต้

  • ประเทศชิลี เป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมสูง ผู้คนส่วนใหญ่ยากจน มีหนี้สินจำนวนมาก ค่าครองชีพก็เพิ่มขึ้น ความเหลื่อมล้ำที่มีสูงมาก คนรวยมีชีวิตความเป็นอยู่สุขสบาย แต่คนจนและชนชั้นกลางกลับตกทุกข์ได้ยาก ไม่ได้รับการดูแลเยียวยาจากภาครัฐ
    https://www.worldbank.org/en/country/chile/overview
  • ประเทศเวเนซุเอลา ใครจะคิดว่าประเทศที่สามารถหารายได้จากน้ำมันตกปีละหลายพันล้านต่อปี จะต้องประสบปัญหาเศรษฐกิจและกลายเป็นประเทศที่ล้มละลายมาถึงปัจจุบัน ซึ่งประชาชนก็ยังต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงมาก ในปีที่ผ่าน ๆ มา มีประชาชนกว่า 5 หมื่นคนที่พยายามหนีออกจากประเทศ และพบว่าประชาชนอีก 90 เปอร์เซ็นต์กำลังประสบปัญหาความยากจนอย่างหนักอีกด้วย
    https://www.elimpulso.com/2020/11/06/la-nueva-intencion-de-maduro-seria-llevar-el-salario-minimo-a-bs-1-200-000/

ทวีปออสเตรเลีย

  • ประเทศนาอูรู จากประเทศที่เคยร่ำรวยกลายเป็นประเทศที่ยากจน ผู้คนบนเกาะบางส่วนต้องอพยพออกไปอยู่ในประเทศรอบๆ และมีอัตราการว่างงานสูง นโยบายและการดำเนินการของรัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือได้ เนื่องจากขาดผู้นำที่มีประสบการณ์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและธรรมชาติ พร้อมต้องเผชิญภัยธรรมชาติยิ่งทำให้เกาะนาอูรูต้องอยู่ในฝันร้ายนี้ไปอีกยาวนาน
    https://www.borgenmagazine.com/rich-causes-of-poverty-in-nauru/
  • ประเทศออสเตรเลีย มีงานวิจัยที่พบว่า มีประชากรมากกว่า 888,000 คนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่อยู่ในความยากจน ซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และพบว่ามีเด็กมากกว่าร้อยละ 16 ตกอยู่ในความยากจน ขณะที่ผู้หญิงนั้นคิดเป็นจำนวนร้อยละ 6 จากผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่ประสบปัญหาความยากจน
    https://www.sbs.com.au/news/880-000-living-in-poverty-in-wealthiest-state-in-one-of-the-world-s-wealthiest-countries
Social media & sharing icons powered by UltimatelySocial